JKN โชว์ความสำเร็จ โกยยอดขายจากตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จับมือพันธมิตร Viu ยักษ์ใหญ่แพลตฟอร์ม OTT ในภูมิภาคอาเซียน ซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยจำนวน 7 เรื่อง สร้างกระแสความนิยมผ่านช่องทาง Online
JKN จับมือพันธมิตร Viu รุกตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง
- เขียนโดย บลูชิพ online 14/10/2020
- 3,327
JKN โกยยอดขายตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง
จับมือพันธมิตร Viu ยักษ์ใหญ่แพลตฟอร์ม OTT ในภูมิภาคอาเซียน ซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยจำนวน 7 เรื่อง สร้างกระแสความนิยมผ่านช่องทาง Online
‘บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN’ ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล ประกาศความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจากการรุกขยายตลาดต่างประเทศ หลังปิดดีลขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์ละครไทยจากช่อง 3 ให้แก่ Viu ในกลุ่ม PCCW ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านวิดีโอสตรีมมิ่งในอาเซียน จำนวน 7 เรื่อง ออกอากาศผ่าน OTT รับกระแสความนิยมซีรี่ส์ละครไทยก้าวขึ้นชั้นแนวหน้าในภูมิภาคนี้
คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกับการรุกขยายตลาดต่างประเทศจากการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์ละครไทยจากช่อง 3 หลังบรรลุข้อตกลงการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์กับ Viu (วิว) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ OTT (Over-the-top) ยักษ์ใหญ่ระดับระดับภูมิภาคจากกลุ่มบริษัท PCCW Media สำหรับการสตรีมมิ่งในประเทศมาเลเซีย สิงค์โปร์ และอินโดนีเซีย โดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ JKN และ Viu จับมือร่วมกันเพื่อนำลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยออกไปสู่สายตาผู้ชมในอาเซียน และเชื่อมั่นว่าในอนาคตจะมีความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่คอนเทนต์ละครไทย และครองความนิยมจากผู้ชมในภูมิภาคนี้ให้มากยิ่งขึ้น
การจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้กับ Viu ในครั้งนี้ เป็นซีรี่ส์ละครไทยทั้งหมด 7 เรื่อง ที่ได้รับความิยมอย่างสูง ได้แก่ Evil Box II (รากบุญ 2), The Guardian (เจ้าบ้านเจ้าเรือน), The Ghost Money (เงินปากผี), Haunted Hair (ผมอาถรรพ์), My Secret Bride (เขาวานให้หนูเป็นสายลับ), Candle in the Sun (เพลิงพรางเทียน) และ My Forever Sunshine (ตราบฟ้ามีตะวัน) เพื่อออกอากาศผ่าน OTT ในช่อง Viu รองรับพฤติกรรมการรับชมคอนเทนต์ของคนรุ่นใหม่ในภูมิภาคนี้ สำหรับเรื่อง My Forever Sunshine จะเป็นการ steaming พร้อมกันกับการออกอากาศในประเทศไทย (Simulcast)
“ความสำเร็จในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำคุณภาพการผลิตซีรีส์ละครไทยที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับจากผู้ชมชาวอาเซียนเป็นอย่างดี และยังถือเป็นครั้งแรกที่เราสามารถขายลิขสิทธิ์ละครไทยประเภทหนังสยองขวัญของไทย ให้ผู้ชมทั่วภูมิภาคได้สัมผัสถึงความตื่นเต้น และความสนุกสนานไปกับหนังสยองขวัญของประเทศไทย เพื่อต้อนรับเทศกาลฮาโลวีน ที่จะถึงในปลายเดือนนี้ โดยมีซีรี่ส์สยองขวัญ 4 เรื่องที่จะเริ่มออกอากาศ ได้แก่ รากบุญ เจ้าบ้านเจ้าเรือน เงินปากผี และผมอาถรรพ์ และเชื่อว่าจะได้รับความนิยมจากผู้ชมอย่างแน่นอน” คุณจักรพงษ์ กล่าว
คุณเวอร์จีเนีย ลิม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวสาร ของ Viu กล่าวว่า ความร่วมมือกับ JKN ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของกลุ่ม PCCW ในการซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรีส์ละครไทยที่มีมาตรฐานการผลิตที่มีคุณภาพ มาเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม OTT ของ Viu โดยเชื่อมั่นว่า จุดเริ่มต้นของพันธมิตรทางธุรกิจกับ JKN ในครั้งนี้ จะเป็นตัวจุดประกายช่วยสร้างความนิยมในคอนเทนต์ละครไทยให้กับผู้ชมของ Viu โดยเฉพาะ กลุ่มผู้ชมในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นการเผยแพร่คอนเทนต์ละครไทยไปภูมิภาคอาเซียนให้มากขึ้น
คุณสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจทีวี บมจ.บีอีซีเวิลด์ หรือ ช่อง 3 กล่าวว่า JKN ถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเข้าใจและมีความเชี่ยวชาญการทำตลาดลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ที่สามารถสร้างกระแส ซีรีส์ละครไทยให้ได้รับความนิยมจากผู้ชมชาวอาเซียนเป็นอย่างดี ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าความร่วมมือระหว่าง JKN และ Viu จะเป็นอีกมิติแห่งความสำเร็จในการขยายตลาดคอนเทนต์ในภูมิภาคนี้ และจะทำให้ซีรีส์ละครไทยสามารถครองความนิยมจากกลุ่มผู้ชมชาวอาเซียนที่มีมากกว่า 650 ล้านคนได้มากขึ้นอย่างแน่นอน