‘แอน JKN’ เผยรายได้โตสนั่น ปีนี้เข้าเป้า 2,000 ล้าน เหตุลูกค้าไทย-เทศ แห่ขอซื้อคอนเทนต์เพิ่ม

‘บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN’ ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล รับทรัพย์ขายคอนเทนต์ในไทยและเทศเติบโตพุ่ง มั่นใจปีนี้โกยรายได้รวม 2,000 ล้านบาทแน่นอน พร้อมย้ำลูกค้าไม่กล้าเบี้ยวหนี้ เหตุฐานลูกค้าเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในวงการทีวีดิจิทัล ขณะที่ต่างประเทศได้เอ็กซิมแบงก์ ช่วยสกรีนลูกค้าก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจและค้ำประกันการจ่ายเงิน วอนนักลงทุนลงทุนในหุ้น JKN ระยะยาวจากศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจและแผนนำบริษัทก้าวสู่การเป็น Global Company ในระดับโลก                 คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า เป้าหมายการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะทำรายได้ 2,000 ล้านบาทได้ตามแผนที่วางไว้ จากการเติบโตของอุตสาหกรรมลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่มีอัตราการขยายตัวอย่างโดดเด่น จากความต้องการซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปออกอากาศผ่านทุกแพลตฟอร์ม ทั้งทีวีดิจิทัล และแพลตฟอร์ม OTT เนื่องจาก JKN มีจุดแข็งสำคัญคือ การเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์คอนเทนต์แบบ Output Deal จากเจ้าของสิทธิ์ ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่หลากหลายรวม 8 กลุ่มคอนเทนต์จากซูเปอร์แบรนด์ระดับโลก ที่ครอบคลุมทุกสาระและความบันเทิง                นอกจากนี้ สถานการณ์ COVID-19 ยังเอื้อต่อตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในไทย โดยผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล เช่น ช่อง 8 ช่อง 3 และช่องเวิร์คพอยท์ ให้ความสนใจติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกที่ผ่านมาและในไตรมาส 2 นี้ยังมีทีวีดิจิทัลรายใหม่ ๆ ติดต่อซื้อคอนเทนต์ เพื่อไปออกอากาศเพิ่มเติมอีกด้วย                เช่นเดียวกับตลาดจำหน่ายคอนเทนต์ในต่างประเทศ ซึ่งปีนี้บริษัทฯ ได้วางเป้าหมายจะมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 30% ของรายได้รวม …

‘JKN’ เร่งเครื่องโกยยอดขายคอนเทนต์ตลาดต่างประเทศ ดันสัดส่วนเป็น 50% ของรายได้รวม ปิดดีลขายละครไทยให้ Mediacorp และ Dimsum เพิ่ม

‘เจเคเอ็น’ เร่งเครื่องโกยยอดขายคอนเทนต์ตลาดต่างประเทศ ดันสัดส่วนเป็น 50% ของรายได้รวม ‘บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN’ ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล ชี้ตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในต่างประเทศมีศักยภาพเติบโตสูง เล็งเดินเกมรุกประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกาเพิ่มเติม ตั้งเป้าทำสัดส่วนรายได้ 50% ใน 3 ปี ดันบริษัทฯ ก้าวสู่การเป็น Global Company ล่าสุด ปิดดีลจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยให้แก่ บริษัท ‘มีเดีย คอร์ป’ (Mediacorp) สื่อทีวีดิจิทัลอันดับหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ และจำหน่ายลิขสิทธิ์ละครไทยเพิ่มเติมให้แก่ ‘ติ่มซำ เอ็นเทอร์เทนเมนท์’ (Dimsum) สื่อยักษ์ใหญ่ที่มีแพลตฟอร์มโอทีทีในอาเซียน ได้อีก 5 เรื่อง โกยรายได้เป็นกอบเป็นกำ​ ​นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนรุกขยายตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรีส์อินเดีย ฟิลิปปินส์ และละครไทยจากช่อง 3 อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเป็น 50% ของรายได้รวมทั้งหมด จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 32% และก้าวสู่การเป็นบริษัทโกลบอล คัมปานี ซึ่งล่าสุดขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาได้เพิ่มเติม จากปัจจุบันที่จำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดอาเซียนแล้วกว่า 100 เรื่อง ใน 7 ประเทศ ได้แก่ ประเทศในกลุ่มซีแอลเอ็มวี ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม รวมถึงอินโดนีเซีย เกาหลีและไต้หวัน เพื่อนำไปออกอากาศผ่านโทรทัศน์ ช่องทีวีดิจิทัล และรับชมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือ โอทีที ​“แผนการตลาดของบริษัทฯ ใช้กลยุทธ์ซุปเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง โดยให้ซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นของอินเดีย ฟิลิปปินส์ และไทย ร่วมออกบูทในงานอีเว้นท์ที่เกี่ยวกับการจำหน่ายลิขสิทธิ์ระดับโลกในต่างประเทศ เพื่อนำเสนอลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่หลากหลายในมือรวม 8 กลุ่ม และลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยไปสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ซึ่งมั่นใจว่าด้วยความเชี่ยวชาญการทำตลาดที่เป็นตัวจริงแห่งการค้าคอนเทนต์ในภูมิภาค จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายจักรพงษ์กล่าว ​ด้านนายบรรพต ชวาลกร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการลงทุน JKN กล่าวว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการทำข้อตกลงจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยจากช่อง 3 เรื่อง Love Destiny หรือ บุพเพสันนิวาส ให้แก่บริษัท ‘มีเดีย คอร์ป’ สื่อทีวีดิจิทัลยักษ์ใหญ่ของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ละครไทยได้ถูกนำไปออกฉายให้แก่ผู้ชมชาวสิงคโปร์ผ่านโทรทัศน์ ช่อง U และ meWATCH จึงนับว่าเป็นอีกก้าวสำคัญของ JKN ในการขยายตลาดละครไทยออกไปสู่ทั้งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ​พร้อมกันนี้ JKN ยังประสบความสำเร็จในการปิดการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครจากช่อง 3 กับ ‘ติ่มซำ’ ซึ่งเป็นสื่อยักษ์ใหญ่ที่มี แพลตฟอร์ม OTT ทั้งในประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงค์โปร์ และประเทศบรูไน โดยครั้งนี้ ‘ติ่มซำ’ ได้นำละครไทยที่ได้รับความนิยมอีก 5 เรื่อง รวม 180 ชั่วโมง ได้แก่ 1.Deceitful …

‘เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย’ มาแรงโชว์ 1Q63 ทำกำไรสุทธิ 95.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.34% รับดีมานต์ความต้องการซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ช่วง COVID-19 พุ่ง

นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือเจเคเอ็น ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 (มกราคม-มีนาคม) บริษัท ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 460.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 424 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 95.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 80.50 ล้านบาท นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ผลงานดังกล่าวมาจากศักยภาพการดำเนินธุรกิจของเจเคเอ็น ที่มีลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับพรีเมียมจากแบรนด์ดังระดับโลกมากมายซึ่งครอบคลุมทั้งสาระและความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์อินเดีย ซีรีส์ฟิลิปปินส์และคอนเทนต์สารคดีชั้นนำจากต่างประเทศ ทำให้ลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาซื้อคอนเทนต์นำไปออกอากาศเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมผ่านทีวีดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ที่พบว่า กลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลติดต่อขอซื้อคอนเทนต์เพื่อนำไปออกอากาศทางสถานีเพิ่มขึ้น ทั้งช่อง 8 ช่อง 3 และช่องเวิร์คพอยท์ ขณะที่ ตลาดต่างประเทศ บริษัทสามารถปิดการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการทีวีในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี หรือกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม รวมถึงการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์ละครไทยจากช่อง 3 ได้เพิ่มเติม ส่งผลให้เจเคเอ็น ทำสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศในไตรมาสนี้สูงถึง 32.6% ซึ่งยังเป็นไปตามแผนงาน ที่ตั้งเป้าจะมีสัดส่วนจากตลาดต่างประเทศมากกว่า 30% ของรายได้รวม “ในไตรมาสแรกคู่ค้าของเรามีความต้องการซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์เข้ามาเป็นจำนวนมากทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีศักยภาพความพร้อมของลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่หลากหลายจำนวน 8 กลุ่มให้กับลูกค้าที่ครอบคลุมทุกความสาระและความบันเทิง ส่งผลดีต่ออัตราการหมุนเวียนลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้น ช่วยตอกย้ำให้ เจเคเอ็น เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี” นายจักรพงษ์ กล่าว นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ส่วนแผนดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2563 บริษัทมั่นใจว่าผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลยังมีความต้องการซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง จากพฤติกรรมการรับชมโทรทัศน์ในช่วงการทำงานจากที่บ้าน (เวิร์กฟรอมโฮม) ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบการต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านการผลิตรายการแล้วหันมาซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพื่อนำไปออกากาศ ที่มีต้นทุนถูกกว่าการผลิตเอง จึงมั่นใจว่า ในครึ่งปีแรกของปีนี้ผลการดำเนินงานของเจเคเอ็น จะมีแนวโน้มเติบโตที่ดีขึ้น 10-15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาและมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีต่อเนื่องจากการบริหารจัดการลูกหนี้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ ความคืบหน้าการนำ เจเคเอ็น ย้ายการซื้อขายบนกระดานตลาดหลักทรัพย์ …