‘เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย’ มาแรงโชว์ 1Q63 ทำกำไรสุทธิ 95.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.34% รับดีมานต์ความต้องการซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ช่วง COVID-19 พุ่ง

นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือเจเคเอ็น ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 (มกราคม-มีนาคม) บริษัท ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 460.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 424 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 95.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 80.50 ล้านบาท นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ผลงานดังกล่าวมาจากศักยภาพการดำเนินธุรกิจของเจเคเอ็น ที่มีลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับพรีเมียมจากแบรนด์ดังระดับโลกมากมายซึ่งครอบคลุมทั้งสาระและความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์อินเดีย ซีรีส์ฟิลิปปินส์และคอนเทนต์สารคดีชั้นนำจากต่างประเทศ ทำให้ลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาซื้อคอนเทนต์นำไปออกอากาศเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมผ่านทีวีดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ที่พบว่า กลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลติดต่อขอซื้อคอนเทนต์เพื่อนำไปออกอากาศทางสถานีเพิ่มขึ้น ทั้งช่อง 8 ช่อง 3 และช่องเวิร์คพอยท์ ขณะที่ ตลาดต่างประเทศ บริษัทสามารถปิดการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการทีวีในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี หรือกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม รวมถึงการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์ละครไทยจากช่อง 3 ได้เพิ่มเติม ส่งผลให้เจเคเอ็น ทำสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศในไตรมาสนี้สูงถึง 32.6% ซึ่งยังเป็นไปตามแผนงาน ที่ตั้งเป้าจะมีสัดส่วนจากตลาดต่างประเทศมากกว่า 30% ของรายได้รวม “ในไตรมาสแรกคู่ค้าของเรามีความต้องการซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์เข้ามาเป็นจำนวนมากทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีศักยภาพความพร้อมของลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่หลากหลายจำนวน 8 กลุ่มให้กับลูกค้าที่ครอบคลุมทุกความสาระและความบันเทิง ส่งผลดีต่ออัตราการหมุนเวียนลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้น ช่วยตอกย้ำให้ เจเคเอ็น เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี” นายจักรพงษ์ กล่าว นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ส่วนแผนดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2563 บริษัทมั่นใจว่าผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลยังมีความต้องการซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง จากพฤติกรรมการรับชมโทรทัศน์ในช่วงการทำงานจากที่บ้าน (เวิร์กฟรอมโฮม) ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบการต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านการผลิตรายการแล้วหันมาซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพื่อนำไปออกากาศ ที่มีต้นทุนถูกกว่าการผลิตเอง จึงมั่นใจว่า ในครึ่งปีแรกของปีนี้ผลการดำเนินงานของเจเคเอ็น จะมีแนวโน้มเติบโตที่ดีขึ้น 10-15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาและมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีต่อเนื่องจากการบริหารจัดการลูกหนี้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ ความคืบหน้าการนำ เจเคเอ็น ย้ายการซื้อขายบนกระดานตลาดหลักทรัพย์ …

JKN’ จับมือ ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล ในเครือสหพัฒน์ รุกโฮมช้อปปิ้งในไทย ปั้น JKN Shopping ทางช่อง JKN Dramax และ JKN-CNBC

‘คุณแอน – จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ผู้บริหาร บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN’ จับมือ บมจ. ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล ในเครือสหพัฒน์ รุกธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง ปั้น JKN Shopping ออกอากาศทาง JKN Dramax  และเว็บไซต์ JKN-CNBC ขนทัพสินค้าอุปโภคบริโภคส่งตรงถึงนักช้อปปิ้ง หนุนรายได้จากการขายสื่อโฆษณาได้เพิ่มขึ้น                คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ บมจ.ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล ในเครือสหพัฒน์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคระดับแนวหน้าของเมืองไทย ร่วมมือกันรุกตลาดโฮมช้อปปิ้งในไทยผลิตรายการ JKN Shopping ออกอากาศทางช่อง JKN Dramax ที่ปัจจุบันเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มทีวีดาวเทียมและแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้แก่ ช่อง PSI 159, กล่อง GMMZ ช่อง 116, กล่องทีโอทีไอพีทีวี ช่อง 41, กล่องทรูไอดี, กล่องเอไอเอสเพลย์บ็อค และแอพพลิเคชั่นทรูไอดี, เอไอเอสเพลย์ และเอชทีวี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากแบรนด์ดังของ บมจ.ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล ในเครือสหพัฒน์ มากกว่า 50 แบรนด์ในราคาสุดพิเศษ ที่ทาง บมจ.ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล ได้คัดสรรมาจำหน่ายใน JKN Shopping เช่น แบรนด์ Arrow, Wacoal, BSC เป็นต้น                สำหรับรูปแบบรายการ JKN Shopping นั้น จะนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทั้งชายและหญิง อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป …

‘เจเคเอ็น’ ควัก 350 ล้านบาท ตั้งบริษัทย่อยที่สิงคโปร์ รับแผนรุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบ

นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด(มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดตั้ง บริษัท เจเคเอ็นโกลบอล คอนเทนต์ (สิงคโปร์) จำกัด ที่ประเทศสิงคโปร์ ด้วยทุนจดทะเบียนไม่เกิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณไม่เกิน 350 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ได้ถือหุ้น 100% เพื่อรองรับแผนรุกขยายตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดโลก ซึ่งสิงคโปร์ถือเป็นศูนย์กลางการค้าลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในภูมิภาคนี้ ดังนั้นการจัดตั้งบริษัทย่อยในครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการซื้อและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังกลุ่มลูกค้าในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกได้ดีขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ตลาดต่างประเทศมากขึ้นด้วย “ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซิมแบงก์ ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศของบริษัทฯ โดยเอ็กซิมแบงก์ จะช่วยตรวจสอบมาตรฐานทางการเงินของคู่ค้าด้านการชำระเงินก่อนมีการซื้อขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ พร้อมรับประกันความเสี่ยงแทนบริษัทฯ หากคู่ค้าเกิดการผิดนัดชำระ ซึ่งปัจจุบัน เอ็กซิมแบงก์ ได้ดำเนินการตรวจสอบและพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างทำสัญญาประกันการชำระหนี้ที่เกิดจากการทำธุรกรรมในต่างประเทศจำนวน 4 ราย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ และที่เหลืออีก 2 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบในการรับทําประกันและรับชําระหนี้ คาดว่าจะทำประกันสัญญาชำระหนี้แล้วเสร็จภายในไม่เกินไตรมาส 2/63 นี้” นายจักรพงษ์กล่าว นายจักรพงษ์กล่าวว่า ล่าสุด จากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 ผู้ถือหุ้นได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ในการอนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นสามัญในอัตรา 8 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นจำนวน67.5 ล้านหุ้น และจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดอีกในอัตรา 0.14 บาทต่อหุ้น รวมจ่ายปันผลทั้งสิ้นประมาณ 0.2025 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นและเงินสดในวันที่ 29 เมษายน 2563 พร้อมอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนรวม 104.8 ล้านหุ้น ในราคาพาร์ 0.50 บาท หรือคิดเป็น 52.4 ล้านบาท รองรับการจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้น การปรับสิทธิของหุ้นกู้แปลงสภาพ และการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ JKN-W1 ในครั้งนี้ สอดรับแผนการย้ายการซื้อขายหลักทรัพย์JKN ไปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ นอกจากนี้ ที่ประชุมฯยังมีมติอนุมัติการขยายวงเงินการออกและการเสนอขายหุ้นกู้เพิ่มอีกจำนวน 1,000 ล้านบาท จากเดิมวงเงินเดิมไม่เกิน 1,500 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินใหม่ทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท รองรับการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปีนี้จำนวน 900 ล้านบาท และหากภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้อต่อการออกหุ้นกู้ บริษัทฯ จะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการที่มีเพียงพอและวงเงินสินเชื่อที่มีอยู่จากสถาบันการเงิน เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในปีนี้แทน ซึ่งไม่กระทบต่อแผนงานดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด