‘เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย’ สุดฮอต โชว์กำไรปี 61 ทำได้ 227.7 ล้านบาท

‘บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN’ ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล โชว์กำไรสุทธิปี 61 ทำได้ 227.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.3% หลังรุกขยายตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในอาเซียน แถมฐานลูกค้าทีวีดิจิทัลในประเทศเติบโตเด่น หนุนรายได้รวมเพิ่มเป็น 1,422 ล้านบาท ด้านบอร์ดฯ ชงอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา0.17 บาทต่อหุ้น เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ขณะที่แผนงานปี 62 เดินเกมรุกตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง หลังขีดความสามารถการผลิตคอนเทนต์พุ่งเป็น 10,000 ชั่วโมง สูงที่สุดในอุตสาหกรรมจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ดันการเติบโต 20% คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากลเปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2561 (มกราคม-ธันวาคม) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการผลักดันการเติบโตของผลประกอบการได้เป็นอย่างดี โดยมีกำไรสุทธิ 227.7ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 187.67 ล้านบาท ซึ่งเติบโตทะลุเป้าหมายจากที่คาดการณ์ว่าจะเติบโต 20% ซึ่งเป็นผลมาจากการรุกขยายตลาดลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์ในตลาดภูมิภาคอาเซียนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตลาดในเมียนมาร์ ลาวและกัมพูชา เช่นเดียวกันกับตลาดในประเทศที่ JKN สามารถขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลและกลุ่ม VOD หรือ Video On Demand ที่มีอัตราการเติบโตอย่างโดดเด่น ส่งผลให้รายได้รวมปีนี้ทำได้ 1,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 1,155 ล้านบาท “เราประสบความสำเร็จในการทำผลงานในปี 61 เติบโตได้มากกว่าเป้าหมายทั้งในแง่รายได้และกำไรสุทธิ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงขีดความสามารถทำตลาดเพื่อสร้างยอดขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์และสามารถรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จึงสะท้อนให้เห็นถึงกำไรสุทธิของ JKN ที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง” คุณจักรพงษ์ กล่าว ทั้งนี้ ด้วยความสำเร็จดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานในปี 2561 ในอัตราหุ้นละ0.17 บาทต่อหุ้น โดยจะกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 19 มีนาคม 2562 และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JKN กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายในปี 2562 บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโต 20% โดยมีแผนรุกขยายตลาดลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม หลังจากที่บริษัทฯ มีศักยภาพการผลิตคอนเทนต์ที่ดีขึ้นจากการลงทุนขยายห้องพากย์และเพิ่มทีมงานบริหารและพัฒนาคอนเทนต์ ทีมพากย์ ทีมตัดต่อ เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินงาน ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น …

JKN สังสรรค์ล่องเรือ “VIP Dinner หนุมาน พระราม ตามใจแฟน”

คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เอาใจแฟนคลับแดนภารตะจัดปาร์ตี้ล่องเรือชมบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมร่วม Meet & Greet ทีมโดยนักแสดงอินเดีย ‘กากัน มาสิค’ และอิชานท์ บานุชาลี ที่เดินทางมาร่วมงาน พร้อมมอบรางวัลสุดพิเศษให้เหล่าแฟนคลับให้อีกมากมาย โดยงานจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 62 ที่ผ่านมา

ผู้บริหาร JKN เก็บหุ้นรวม 4.13 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 7.40 บาท

‘แอน-จักรพงษ์’ ผู้บริหาร JKN ซื้อหุ้นรวม 4.13 ล้านหุ้น ในระหว่างวันที่ 18-23 มค. 62 ในราคาเฉลี่ย 7.40 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่ากว่า 30.58 ล้านบาท หลังมั่นใจในแผนยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ที่เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ หนุนการเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืน คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากลเปิดเผยว่า ตนได้เข้าลงทุนในการซื้อหุ้น JKN บนกระดานหลักทรัพย์ในช่วงระหว่างวันที่ 18-23 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา เพราะมั่นใจอุตสาหกรรมลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในภูมิภาคอาเซียนยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก รวมถึงแผนยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของ JKN ในระยะยาวที่มีแผนงานในการสร้างการเติบโตในระยะยาวจากการเติบโตที่ดีจากการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ และบริษัทฯมีแผนงานจะบุกขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ ลิขสิทธิ์คอนเทนต์ถือเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำของธุรกิจทีวีที่สามารถนำไปเผยแพร่ออกอากาศได้หลายช่องทาง ทั้งสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล ผู้ประกอบธุรกิจโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์และผู้ประกอบ VDO (Video On Demand) เป็นต้น โดย JKN มีจุดแข็งจากการได้รับสิทธิ์แบบ Output Deal จากเจ้าของด้านลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพื่อจำหน่ายที่มีความหลากหลาย จึงทำให้ระหว่างที่ได้รับสิทธิ์นั้น JKN สามารถเลือกคอนเทนต์ได้ก่อนเป็นรายแรกเพื่อนำไปจำหน่ายให้แก่ลูกค้าส่งผลดีต่อการผลักดันผลประกอบการที่เติบโตอย่างยั่งยืน “การซื้อหุ้นในนามส่วนตัวรวมทั้งสิ้น 4.13 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ย 7.40 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่ากว่า 30.58 ล้านบาท เพราะมั่นใจในยุทธศาสตร์ทางธุรกิจในระยะยาวที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปสู่ช่องทางการออกอากาศใหม่เพิ่มเติมในอนาคต” คุณจักรพงษ์ กล่าว ส่วนการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเติบโต 15-20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีแผนขยายตลาดต่างประเทศที่เป็น Blue Ocean ซึ่ง JKN มีศักยภาพและความพร้อมทำตลาด รวมถึงจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ทั้งซี่รีส์อินเดีย-ฟิลิปปินส์และไทยจากช่อง 3 ไปยังภูมิภาคอาเซียนรวมถึงในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก