JKN ปลุกกระแสลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไทยครองใจผู้ชมทั่วอาเซียน หลังเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพื่อส่งออกละครไทยจากช่อง 3 ไปในตลาดต่างประเทศ
เจเคเอ็นส่งคอนเทนต์ไทยทำตลาดอินเตอร์กว่า300 ล้าน
บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ปลุกกระแสลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ไทยครองใจผู้ชมทั่วอาเซียน หลังเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ คอนเทนต์เพื่อส่งออกละครไทยจากช่อง 3 ไปในตลาดต่างประเทศ ชูกลยุทธ์ ซุปเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง บูมละครไทยฟีเวอร์ เร่งปิดดีลจำหน่ายลิขสิทธิ์ คอนเทนต์ไทยในมาเลเซีย ฟิลิปินส์และอินโดนีเซีย แล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/61 พร้อมทยอยส่งมอบลิขสิทธิ์เพื่อนำไปเผยแพร่และรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ ขณะที่กระแสซีรี่ส์อินเดียยังฮอตฮิต จากตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV กวาดรายได้อย่างต่อเนื่อง มั่นใจสิ้นปีปิดรายได้ จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ในตลาดต่างประเทศ 300 ล้านบาท
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์ คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า แผนดำเนินงานในช่วงที่เหลื อของปีนี้ บริษัทฯ มีนโยบายเร่งทำตลาดและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังตลาดต่ างประเทศอย่างจริงจัง โดยเฉพาะลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ละครไทยจากช่อง 3 หลังจากที่ JKN ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ ละครไทยมากกว่า 70 เรื่อง ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน เช่น บุบเพสันนิวาส, สามีตีตรา, ทรายสีเพลิง, รอยฝันตะวันเดือด, ลมซ่อนรัก, เพลิงนารี, และ นาคี ที่ได้รับความนิยมอย่างสู งในประเทศไทย เพื่อไปทำตลาดและจำหน่ายังตลาดต่างประเทศทั่วโลก (ยกเว้นจีน ฮ่องกง กัมพูชา เวียดนามและเมียนมาร์) โดยมีตลาดอาเซียนเป็นหนึ่งในตลาดเป้าหมายที่ JKN มองเห็นโอกาสการนำลิขสิทธิ์ คอนเทนต์ละครไทยไปขยายตลาดในกลุ่มประเทศนี้ได้มากขึ้น
สำหรับแนวทางทำตลาดนั้น บริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์ซูเปอร์สตาร์มาร์ เก็ตติ้ง เพื่อสร้างละครไทยฟีเวอร์ ให้เป็นที่นิยมจากกลุ่มผู้ชมในต่างประเทศ และเปิดโอกาสให้ลูกค้าเลือกซื้อแพคเก็จลิขสิทธิ์ที่ตรงกั บความต้องการและช่องทางที่ เผยแพร่ ซึ่งจากการทำตลาดที่ผ่านมาพบว่า ลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยจากช่ อง 3 ได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะในประเทศ มาเลเซีย ฟิลิปินส์และอินโดนีเซีย
ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ สามารถปิดดีลการจำหน่ายลิขสิทธิ์ ไปยังประเทศมาเลเซีย ขณะที่ฟิลิปปินส์นั้น ปิดการขายได้แล้ว 1 ช่อง และอยู่ระหว่างการเจรจาอีก 2 ช่อง ส่วนประเทศอินโดนีเซีย อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ ครบทั้งหมดภายในไตรมาส3/61 นี้ และเริ่มส่งมอบลิขสิทธิ์เพื่อทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ทันที
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JKN กล่าวว่า ขณะที่ลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์ อินเดีย ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ชมในประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเมียนมาร์) JKN ประสบความสำเร็จสามารถปิดการขายได้ 150 ล้านบาท และได้ทยอยส่งมอบไปแล้วบางส่ วนประมาณ 70 ล้านบาทในไตรมาสที่ผ่านมา และจะทยอยส่งมอบลิขสิทธิ์ คอนเทนต์ที่เหลือเพื่อรับรู้ รายได้ในปีนี้ทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดต่ างประเทศปีนี้ทำได้ 300 ล้านบาทได้ตามเป้าหมาย
“เรามีประสบการณ์และความเชี่ ยวชาญในธุรกิจคอนเทนต์มานานกว่า 20 ปีและได้รับการยอมรับจากคนในอุ ตสาหกรรมคอนเทนต์ระดับโลก จึงทำให้เราสามารถขยายตลาดลิขสิ ทธิ์คอนเทนต์ไทยและซีรี่ส์อิ นเดียไปเปิดตลาดขยายฐานกลุ่มผู้ ชมในภูมิภาคนี้เพิ่มเติม ซึ่งส่งผลดีให้กับภาพรวมการเติ บโตของรายได้ของปีนี้ เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้” นายจักรพงษ์ กล่าว