, ,

‘JKN’ เร่งเครื่องโกยยอดขายคอนเทนต์ตลาดต่างประเทศ ดันสัดส่วนเป็น 50% ของรายได้รวม ปิดดีลขายละครไทยให้ Mediacorp และ Dimsum เพิ่ม

‘เจเคเอ็น’ เร่งเครื่องโกยยอดขายคอนเทนต์ตลาดต่างประเทศ ดันสัดส่วนเป็น 50% ของรายได้รวม

‘บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN’ ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล ชี้ตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในต่างประเทศมีศักยภาพเติบโตสูง เล็งเดินเกมรุกประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกาเพิ่มเติม ตั้งเป้าทำสัดส่วนรายได้ 50% ใน 3 ปี ดันบริษัทฯ ก้าวสู่การเป็น Global Company ล่าสุด ปิดดีลจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยให้แก่ บริษัท ‘มีเดีย คอร์ป’ (Mediacorp) สื่อทีวีดิจิทัลอันดับหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ และจำหน่ายลิขสิทธิ์ละครไทยเพิ่มเติมให้แก่ ‘ติ่มซำ เอ็นเทอร์เทนเมนท์’ (Dimsum) สื่อยักษ์ใหญ่ที่มีแพลตฟอร์มโอทีทีในอาเซียน ได้อีก 5 เรื่อง โกยรายได้เป็นกอบเป็นกำ​

​นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนรุกขยายตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรีส์อินเดีย ฟิลิปปินส์ และละครไทยจากช่อง 3 อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเป็น 50% ของรายได้รวมทั้งหมด จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 32% และก้าวสู่การเป็นบริษัทโกลบอล คัมปานี ซึ่งล่าสุดขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาได้เพิ่มเติม จากปัจจุบันที่จำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดอาเซียนแล้วกว่า 100 เรื่อง ใน 7 ประเทศ ได้แก่ ประเทศในกลุ่มซีแอลเอ็มวี ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม รวมถึงอินโดนีเซีย เกาหลีและไต้หวัน เพื่อนำไปออกอากาศผ่านโทรทัศน์ ช่องทีวีดิจิทัล และรับชมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือ โอทีที

​“แผนการตลาดของบริษัทฯ ใช้กลยุทธ์ซุปเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง โดยให้ซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นของอินเดีย ฟิลิปปินส์ และไทย ร่วมออกบูทในงานอีเว้นท์ที่เกี่ยวกับการจำหน่ายลิขสิทธิ์ระดับโลกในต่างประเทศ เพื่อนำเสนอลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่หลากหลายในมือรวม 8 กลุ่ม และลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยไปสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ซึ่งมั่นใจว่าด้วยความเชี่ยวชาญการทำตลาดที่เป็นตัวจริงแห่งการค้าคอนเทนต์ในภูมิภาค จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายจักรพงษ์กล่าว

​ด้านนายบรรพต ชวาลกร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการลงทุน JKN กล่าวว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการทำข้อตกลงจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยจากช่อง 3 เรื่อง Love Destiny หรือ บุพเพสันนิวาส ให้แก่บริษัท ‘มีเดีย คอร์ป’ สื่อทีวีดิจิทัลยักษ์ใหญ่ของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ละครไทยได้ถูกนำไปออกฉายให้แก่ผู้ชมชาวสิงคโปร์ผ่านโทรทัศน์ ช่อง U และ meWATCH จึงนับว่าเป็นอีกก้าวสำคัญของ JKN ในการขยายตลาดละครไทยออกไปสู่ทั้งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก

​พร้อมกันนี้ JKN ยังประสบความสำเร็จในการปิดการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครจากช่อง 3 กับ ‘ติ่มซำ’ ซึ่งเป็นสื่อยักษ์ใหญ่ที่มี แพลตฟอร์ม OTT ทั้งในประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงค์โปร์ และประเทศบรูไน โดยครั้งนี้ ‘ติ่มซำ’ ได้นำละครไทยที่ได้รับความนิยมอีก 5 เรื่อง รวม 180 ชั่วโมง ได้แก่ 1.Deceitful Love หรือ ร้อยเล่ห์มารยา 2. Shadow of Love หรือ ซ่อนเงารัก 3. The Crown Princess หรือ ลิขิตรักข้ามดวงดาว 4. Repercussion หรือ กรงกรรม และ 5. My Himalayan Embrace หรือ ฟากฟ้าคีรีดาว ไปออกอากาศเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มเพิ่มเติม จากเดิมที่เคยซื้อคอนเทนต์ละครไทยจาก JKN เพื่อนำไปออกอากาศมาแล้ว รวมความยาว 350 ชั่วโมง